ทำไมร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิถึงประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในไทยญี่ปุ่น?

แทบจะมีคนไหนที่ไม่รู้จักร้านอาหารชื่อดังอย่างร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ เป็นร้านอาหารสไตล์ญปุ่นที่เปิดสาขาทั่วประเทศไทยแล้วตอนนี้ ด้วยราคาอาหารที่แพงเกินไป และรสชาติถูกปาก เน้นการเสิร์ฟอาหารจานร้อน มีรสชาติต้นตำรับ นอกจากนั้นยังมีการคดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันอีกด้วย

ทำให้ขยายสาขาได้จำนวนมากในไทยร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ นั้นแปลเป็นภาษาไทยแล้วจะแปลว่า เดือนมีนาคม ซึ่งจะสื่อถึงบรรยากาศแห่งการเปลี่ยนแปลงจากฤดูหนาวเข้าสูฤดูใบไม้พลิ บริษัทได้จดทะเบียนที่ญี่ปุ่นชื่อว่า Hotto Motto

ร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ มีจุดเริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่นเมืองโตเกียว ประมาณ125 ปีที่แล้ว ในยุคเมจิของญี่ปุ่น ซึ่งยุคเมจิเป็นช่วงแห่งการรับวัฒนธรรม ความทันสมัยจากโลกตะวันตกเข้าสู่ประเทศ โดยเริ่มต้นจากคุณ ทามิจิโร ชิโออิ ที่ได้รับความรู้ในการเป็นเชฟจากประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มขายเพียงเซตละ 1 เยนเท่านั้น จากนั้นได้มีการส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นเรื่อยๆ สำหรับในญี่ปุ่นนั้นมีการเรียกร้าอาหารนี้แตกต่างจากไทยโดยพวกเขาจะเรียกว่าร้าน Yayoiken แต่ในป้านหน้าร้านจะเขียนว่า Teishoku Yayoi

แต่เริ่มแรกเดิมนั้นร้านไม่ได้ชื่อว่า Yayoiken แต่ชื่อ Meshiyadon สำหรับชื่อร้าน Yayoiken พึ่งมาตั้งในปี 2006 นี่เอง
ร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ ถ้าในญี่ปุ่นนั้นจะมีมุมมองต่างจากไทย โดยร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ จะมีเครือข่ายข้าวกล่องหรือคนญี่ปุ่นเรียกว่า เบ็นโตะ โดยมีเครือข่าวทั่วประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 2,400 สาขา
ทีน่าตกใจคือประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิได้เข้ามาเปิดสาขา โดยกลุ่ม เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ชื่อดังในเรื่องสุกี้ และเป็ดย่างนั่นเอง โดยการซื้อสิทธิจากบริษัท Plenus

การเข้ามาทำตลาดในไทยนั้นต้องมีการศึกษา ปรับเปลี่ยนอยู่พอสมควร เริ่มแรกเดิมทีมีการวางโทนสีร้านเป็นสีน้ำตาลและเหลือง ให้สีสันเป็นลักษณะของความเป็นไม้ญี่ปุ่น แต่ด้วยการพยายามเจาะกลุ่มวัยรุ่นจึงทำให้มีการเพิ่มสีชมพู แสดงถึงความสดใสของร้านอาหาร

ร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ นั้นเป็นร้านที่น่าศึกษาอย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจไทย ว่าทำอย่างไรถึงได้รักษาร้านมาได้มากกว่า 125 ปี รอดพ้นจากวิกฤติต่าง ๆ มาได้ แถมยังสามารถขยายธุรกิจเข้าสู่ต่างประเทศได้ แตกต่างจากนนักธุรกิจไทยที่ไม่สามารถรักษาธุรกิจตัวเองได้ไม่เกิน 3 ปี

เอกลักษณ์เฉพาะตัวร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ

ส่วนหนึ่งคือการที่ไม่มีการพยายามสร้างเอกลักษณ์ของธุรกิจ แตกต่างจากร้านอาหาร Yayoi ยาโยอิ มีเอกลักษณ์ของร้านเฉพาะตัว ถึงแม้ใครจพยายามลอกเลียนแบบก็ทำได้ยาก

การให้บริการเพื่อตอบสนองลูกค้า

อีกส่วนก็คือการมีบริการที่ตอบสนองวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นอย่างข้าวกล่องเบนโตะ ถึงแม้เราจะไม่สามารถนำมาลอกเลียนแบบได้เพราะวิถีชีวิตคนไทยกับคนญี่ปุ่นต่างกัน แต่เราก็ควรศึกษาพฤติกรรคนไทยเพื่อหาบริการที่สามารถตอบสนองได้