เจาะลึก Value averaging (VA) กลยุทธ์การลงทุนที่สามารถทดแทน dollar cost averaging (DCA)
Value averaging (VA)ของการลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีการลงทุน dollar cost averaging (DCA) นี่เป็นเพราะ dollar cost averaging คำแนะนำนั้นง่าย นักลงทุนต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินคงที่ทุกเดือน อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึง Value averaging (VA) คำแนะนำอาจซับซ้อนในการปฏิบัติตาม
ในการลงทุนอย่างคุ้มค่า เราต้องสร้างเส้นทางแห่งคุณค่าก่อน ซึ่งหมายความว่านักลงทุนต้องมีเป้าหมายรายเดือนที่ต้องการลงทุน สมมติว่าบุคคลหนึ่งต้องการให้มูลค่าพอร์ตของพวกเขาเป็น 10,000 ในระยะเวลา 10 เดือน จากมูลค่านี้ นักลงทุนจะได้มาซึ่งเป้าหมายรายเดือน ตัวอย่างเช่น นักลงทุนอาจต้องการให้มูลค่าพอร์ตของพวกเขาอยู่ที่
เดือนที่ 1 มูลค่าพอร์ต 1,000 บาท
เดือนที่ 2 มูลค่าพอร์ต 2,000 บาท
เดือนที่ 3 มูลค่าพอร์ต 3,000 บาท
เดือนที่ 4 มูลค่าพอร์ต 41,000 บาท
เดือนที่ 5 มูลค่าพอร์ต 5,000 บาท
เดือนที่ 6 มูลค่าพอร์ต 6,000 บาท
เดือนที่ 7 มูลค่าพอร์ต 7,000 บาท
เดือนที่ 8 มูลค่าพอร์ต 8,000 บาท
เดือนที่ 9 มูลค่าพอร์ต 9,000 บาท
เดือนที่ 10 มูลค่าพอร์ต 10,000 บาท
สมมติว่าพวกเขาลงทุน 1,000 บาทนเดือนแรก สิ้นเดือนแรกตลาดหุ้นขึ้นทำให้มูลค่าพอร์ต 1,000 บาทจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 บาท ดังนั้น ตอนนี้นักลงทุนเพียงต้องเพิ่ม 900 บาทเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ 2,000 ในเดือนหน้า
หลังจากเดือนที่ 2 ตลาดลดลง และมูลค่าของพอร์ตลดลงเหลือ 1,750 บาท ในสถานการณ์นี้ นักลงทุนจะต้องลงทุน 1,250 แทนที่จะเป็น 1,000 บาท เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายเดือนที่ 3,000
ดังนั้นสำหรับ Value averaging (VA) จำนวนเงินที่จะลงทุนในเดือนถัดไปจึงขึ้นอยู่กับผลตอบแทนของพอร์ตในเดือนก่อนหน้า ค่าเฉลี่ยมูลค่าอาจไม่ซ้ำกันในแง่ที่ว่ายังแนะนำให้ผู้คนถอนเงินออกจากพอร์ต ตัวอย่างเช่น หากในกรณีดังกล่าว เป้าหมายสำหรับเดือนที่สี่คือ 4,000 บาท และตลาดดีขึ้นอีก มูลค่าพอร์ตสูงถึง 4,200 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือน นักลงทุนควรขายกองทุนหรือหุ้นออกมา 200 บาทเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 4000 บาท
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกประการหนึ่งของกลยุทธ์ Value averaging (VA) คือในตลาดที่ตกต่ำ นักลงทุนอาจหมดเงินจริง ๆ ทำให้การลงทุนที่จำเป็นมากขึ้นเป็นไปไม่ได้ก่อนที่สิ่งต่าง ๆ จะพลิกกลับ ปัญหานี้สามารถขยายได้หลังจากที่พอร์ตโฟลิโอมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อการเบิกถอนในบัญชีอาจต้องใช้เงินทุนจำนวนมากขึ้นอย่างมากเพื่อยึดติดกับกลยุทธ์ Value averaging (VA)