Tag: cryptocurrency

Cryptocurrency

อธิบายง่ายๆให้เข้าใจ Cryptocurrency คืออะไร

Cryptocurrency = Crypto (การเข้ารหัส) + Currency (สกุลเงิน) ดังนั้นCryptocurrency คือสกุลเงินที่มีการเข้ารหัสทางอิเล็คโทรนิค

ใน พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทอล 2561 ได้ให้คำนิยาม Cryptocurrency “หน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์โดยมีความประสงค์ที่จะใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าบริการ หรือสิทธิอื่นใด หรือแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัล และให้หมายความรวมถึงหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกําหนด”

Cryptocurrency คือ สินทรัพย์ดิจิตอลที่ใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยน ใช้สำหรับธุรกรรมทางการเงิน มีการผลิตหน่วยเงินCryptocurrency การรับรอบรองตัวตันของCryptocurrencyในรูปแบบ Decentralize หรือการที่ไม่ผ่านตัวกลางซึ่งตรงข้ามกับระบบการเงินในปัจจุบันที่มีตัวกลางนั่นก็คือ ธนาคารกลางแต่เป็นการใช้ระบบ Blockchain ที่สมาชิกจะเป็นคนช่วยยืนยันแทน

ตามกฎหมายแล้ว Cryptocurrency ไม่ถือว่าเป็นเงินตรา เพราะเงินต้องถูกกำหนดโดยรัฐและมีทุนสำรองไว้เป็น ทองคำ หรือสกุลเงินต่างๆ ตาม พ.ร.บ. เงินตรา  กำหนดไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดทํา จําหน่าย ใช้ หรือนําออกใช้ซึ่งวัตถุหรือเครื่องหมายใดๆ แทนเงินตรา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี”

Bitcoin เป็น Cryptocurrency แรกๆที่ใช้ระบบ open-source ในปี 2009 และยังเป็นCryptocurrency แรกที่เป็นลักษณะ Decentralizeหรือระบบที่ไม่มีศูนย์กลางควบคุมและหลังจากนั้นก็มีมากกว่า 6,000 Cryptocurrency ที่เปิดตัว

Cryptocurrency ในปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 146 พันล้านเหรียญ ในจำนวนนี้ Bitcoin มีมูลค่าถึง 68%

ข้อดีของ Cryptocurrency

Cryptocurrency ได้รับการโปรโมทว่าเป็นการกำจัดตัวกลางในการควบคุมทางการเงินออกไปโดยการใช้สมาชิกในการช่วยยืนยันแทน ทำให้ต้นทุนการโอนเงินหรือค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้ธนาคารต่ำมาก และด้วยการที่ใช้เทคโนโลยีในการยืนยันข้อมูลไม่ผ่านตัวกลางยังสามารถได้รับความรวดเร็วในการโอนเงิน

ข้อเสีย Cryptocurrency

Cryptocurrency ถูกใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมายจำนวนมากเนื่องด้วยที่ไม่ผ่านกระบวนการของรัฐ อย่างเรื่องราวที่ผ่านมาคือไวรัสคอมพิวเตอร์ Ransom เมื่อคอมพิวเตอร์ไหนติดไวรัสแล้วจะต้องจ่ายค่าไถ่เป็นเงิน Cryptocurrency ถึงจะสามารถกลับมาใช้งานได้ นอกจากนั้นยังใช้ฟอกเงิน เป็นตัวกลางการซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายจำนวนมาก

ความผันผวนของ Cryptocurrency ที่มีสูงทำให้การเจรจาธุรกิจแล้วต้องใช้เงินเป็นตัวกลางที่มีการซื้อขายที่ผันผวนมาก จะกระทบธุรกิจอย่างมากทำให้เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะสามารถทำกำไรจากการซื้อขายสินค้าได้เท่าไหร่ อย่างที่เห็นเมื่อค่าเงินบาทผันผวนมากๆก็ส่งผลเสียต่อการทำธุรกิจระหว่างประเทศอย่างมาก แต่ Cryptocurrency มีความผันผวนมากกว่านั้น ในบางวันมีมากกว่า 10% ในวันเดียวกัน

สุดท้ายแล้ว Cryptocurrency จะเป็นสกุลเงินแห่งอนาคตได้หรือไม่ เวลาเท่านั้นคือเครื่องพิสูจน์ เพราะไม่มีใครรู้อนาคตได้อย่างแน่นอนทุกคน และสุดท้ายนักลงทุนที่จะลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็แล้วแต่ ต้องพยายามมองทั้งสองด้านให้ชัดทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ไม่มีอะไรจะมีดีไปทั้งหมดหรือแย่ไปทั้งหมด

ทำไมรัฐบาลต่างๆถึงต่อต้าน Cryptocurrency

Cryptocurrency เป็นกระแสอย่างมากช่วงที่ผ่านมา เป็นกระแสที่จับต้องได้อย่างชัดเจนจนบริษัท Social Network อันดับ 1 ของโลกอย่าง Facebook เตรียมออกCryptocurrency ออกมาชื่อว่า Libra ออกมา ว่ากันว่า Cryptocurrency จะมาแทนที่ระบบการเงินแบบเก่าไป (เงินสกุลที่รัฐบาลของแต่ล่ะประเทศเป็นคนออก) โดยมองข้อดีต่างๆ เช่น

  • ค่าบริการในการใช้ต่ำ
  • ความรวดเร็วในการทำธุรกรรม
  • ไม่ถูกควบคุมโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง (เฉพาะบางCryptocurrency เช่น Bitcoin)

ถ้ามันมีข้อดีอย่างนี้แล้วทำไมรัฐบาลต่างๆไม่สนับสนุนให้ประชาชนใช้Cryptocurrency ไปเลย

เพราะไม่ต้องเปลืองงบประมาณในการดูแลระบบการเงิน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งการที่รัฐบาลควบคุมค่าเงินนั้นเป้าหมายก็เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจโดยผ่านนโยบายรัฐ ถ้าเกิดคนเปลี่ยนไปใช้ Cryptocurrency

การพัฒนาเศรษฐกิจรัฐบาลจะมีเครื่องมือ 2 ประเภทคือ นโยบายการเงินและนโยบายการคลัง

นโยบายการเงิน(Monetary policy)

นโยบายการเงินจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการควบคุมในระบบเศรษฐกิจโดยธนาคารของแต่ล่ะประเทศ นโยบายการเงินจะมีการกำหนดปริมาณเงินได้หลายวิธีเช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มลดปริมาณเงินสำรอง การเข้าไปแทรกแซงค่าเงิน ถ้าหากประชาชนมาใช้ Cryptocurrency จะทำให้ใช้นโยบายทางการเงินยากลำบากขึ้น

อัตราดอกเบี้ย

ธนาคารกลางสามารถควบคุมอัตราดอกเบี้ยได้ผ่านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ถ้าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นคนนำเงินไปลงทุน และนำเงินไปจับจ่ายใช้สอย

ถ้าต้องการชะลอเศรษฐกิจในช่วงเศรษฐกิจร้อนแรงก็จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยลดการนำเงินไปลงทุน และลดการจับจ่ายใช้สอย

ค่าเงิน

ค่าเงินเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับธุรกิจนำเข้า และส่งออก

ค่าเงินอ่อนจะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศที่มีการส่งออกเยอะๆอย่างเช่นประเทศไทย

ค่าเงินแข็งค่าจะช่วยให้การนำเข้าถูกลง การลงทุนซื้ออุปกรณ์โรงงานต่างๆก็จะถูกลงด้วย

นโยบายการคลัง(Fiscal policy)

นโยบายการคลังจะทำผ่านรัฐบาลกลางของแต่ล่ะประเทศ หลักๆจะมีการใช้จ่ายรัฐบาลในนโยบายต่างๆ และอีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องภาษีที่มีการเพิ่มหรือลดได้จากนโยบายรัฐบาล

ภาษี

ภาษีเป็นปัจจัยหลักๆที่หลายรัฐบาลต้องคำนึงถึงถ้าเกิดนำมาใช้แทนเงินสด เพราะตอนนี้จะเห็นได้รัฐบาลเราพยายามที่จะนำเงินต่างๆเข้าระบบมากขึ้นเพื่อจัดเก็บภาษี ถ้าหากคนหันไปใช้ Crytocurrency ก็จะทำให้ติดตามยาก แม้แต่ทุกวันนี้ใช้เงินบาทเองก็ตามยากอยู่แล้ว ถ้าใช้Cryptocurrency จะตามยากยิ่งขึ้นไปอีก

ธุรกิจผิดกฏหมาย

ที่ผ่านมาเงิน Cryptocurrency มีข่าวเกี่ยวกับการใช้ไปในทางผิดกฎหมายเยอะมาก ที่ดังๆก็คือการที่มี Virus เรียกค่าไถ่ ที่แพร่กระจายกันอย่างมากต้อง จ่ายค่าไถ่เป็นCryptocurrency และมีอาชญากรรมอีกมากที่ Cryptocurrency เป็นสื่อกลางในการซื้อขาย

หลายสิ่งที่พูดมาเกิดจากความกลัวของรัฐบาลต่างๆ อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่ถ้าจริงก็จะเป็นโจทย์ให้นักพัฒนาCryptocurrency ยุคใหม่นำไปแก้ไขหาข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลต่างๆในโลกครับ

ราคา Bitcoin ทะลุ 9000 เหรียญแล้ว ในรอบ 1 ปี

ราคา Bitcoin ได้แตะ 9182 แล้ว ราคาBitcoin ขึ้น 22% ภายใน 1 เดือน และท่าเทียบปีต่อปี เพิ่มขึ้นถึง 142% น่าสนใจมากครับ แต่ก็ยังห่างจากราคาสูงสุดเดิมที่เคยขึ้นไป 19347 เหรียญ

ราคา Bitcoin ที่ขึ้นมาส่วนหนึ่งหลายๆคนก็มองว่าBitcoin จะเป็นสกุลเงินทางเลือกสำหรับการซื้อขาย อย่างเช่นทอง ท่ามกลางสภาวะปัญหา สงครามการค้าที่ประทุขึ้นอย่างรุนแรงขึ้น ทำให้สกุลเงินทางเลือกต่างๆไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือCrytocurrency ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า

และอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับCrytocurrency คือการที่บริษัท Technology ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ได้ตัดสินใจที่จะออก Crytocurrncey ใหม่ออกมา ซัพอร์ทโดยบริษัทอื่นๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีและระบบชำระเงินอีกเพียบ

 Visa Inc.,

Mastercard Inc.,

PayPal Holdings Inc.

and Uber Technologies Inc.

 เป็นหนึ่งในนั้น คาดว่าจะเปิดตัวพรุ่งนี้ คงต้องตามไปดูครับว่าจะออกมาน่าสนใจแค่ไหน จะดึงดูดให้ผู้คนไปใช้สกุลเงิน Cryptocurrency ได้ไหมครับ


Bitcoin
Gold

ที่มา:tradingview.com

error: Content is protected !!