Tag: Amazon

อันดับความรวย

Bill Gates กลับมารวยที่สุดในโลกอีกครั้ง

หลังจากที่ Bill Gates ได้เสียแชมป์ในเรื่องความรวยที่สุดในโลกให้กับ Jeff Bezos แต่ล่าสุดได้มีการสำรวจออกมาใหม่พบว่า Bill Gates กลับขึ้นมาแซงอีกครั้ง หลังจากการสำรวจล่าสุดโดย Bloomberg

Bill Gates เป็นนักธุรกิจ นักลงทุน นักพัฒนาโปรแกรม นักการกุศล เขาเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้ก่อตั้ง Microsoft

Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือออนไลน์ Amazon และได้กลายเป็นร้านค้าปลีกสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หลังจากที่ราคาหุ้น Microsoft เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 48% แต่ราคาหุ้น Amazon ไม่ไปไหนเลย นอกจากนั้น Jeff Bezos ต้องแบ่งทรัพย์สินบางส่วนให้กับอดีตภรรยาหลังจากมีการประกาศเลิกกันอย่างเป็นทางการ

ถึงแม้จะมีการจัดอันดับจาก Bloomberg เป็นที่ตื่นตาสำหรับผู้อ่าน แต่สำหรับ Bill Gates และ Jeff Bezos เองจากการสัมภาษณ์หลาย ๆครั้ง ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการจัดอันดับของพวกเขาเท่าไหร่ พวกเขาให้ความสนใจเกี่ยวกับผลงานที่เขาทำมากกว่าตัวเลขการขึ้นลงของมูลค่าทรัพย์สิน

หุ้น Amazon ถูกหรือแพง ? ทำไม Warren Buffett ถึงซื้อ?

ข้อมูลจาก Yahoo finance

Amazon หุ้น E-commerce ยักษ์ใหญ่ ก่อตั้งโดย Jeff Bezos บุคคลที่รวยที่สุดในโลกตอนนี้ ล่าสุด Warren Buffet ได้เปิดเผยว่าบริษัท Berkshire Hathaway ได้เข้าไปซื้อหุ้น Amazon จำนวน 483,300 หุ้น หรือมูลค่ามากกว่า 900 ล้านเหรียญ และได้ยื่นข้อมูลให้กับคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์สหรัฐแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ Berkshire ก็ไม่ได้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะมีอัตราส่วนเพียง 0.1% ของหุ้นทั้งหมด

สำหรับAmazon ตอนนี้ถ้าเราซื้อต้องจ่ายเงินค่าหุ้นในราคาถึง 50 เท่าของกำไรที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ปี 2020 หมายความว่าเราจ่ายเงินวันนี้ต้องใช้เวลาถึง 50 ปีที่จะคืนทุน (P/E 50 เท่า) เมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีที่ Warren Buffett ได้ซื้อที่ผ่านมาคือ หุ้น Apple หุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งโดยอัจฉริยะอย่าง Steve Jobs ที่ Berkshire ได้ซื้อก่อนหน้านี้ในราคาหุ้นเพียง 16 เท่าของกำไรเอง (P/E 16 เท่า)

ข้อมูลจาก Yahoo Finance

แต่ผมว่าสิ่งที่น่าสนใจสำหรับหุ้น Amazon ก็คือ แบรนด์ของ Amazon ที่มีความชัดเจนมากว่าเวลาที่เราอยากจะซื้อของออนไลน์สักอย่างแล้วในต่างประเทศเราจะนึกถึง Amazon เป็นอันดับแรกเลย เป็นสไตล์หนึ่งของ Warren Buffet ที่ไม่เน้นหุ้นถูกอย่างเดียว แต่เน้นปัจจัยความแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วย ยกตัวอย่างหุ้นที่มีแบรนด์แข็งแกร่งของ Warren Buffet เช่น เครื่องดื่ม Coke ไอศกรีม Dairy Queen ซอส Heinz โทรศัพท์ Apple จะเห็นได้ว่าแต่ล่ะบริษัทมีจะมีความเป็นเบอร์หนึ่งในเรื่องแบรนด์ (Brand Awareness)

Amazon สาสามารครอบครองตลาดออนไลน์ของสหรัฐถึง หนึ่งในสาม จากข้อมูลของ DigitalCommerce360.com พบว่า Amazon มีสัดส่วนการตลาดแต่ล่ะประเภทดังนี้

– หนังสือออนไลน์ 90%

– ของเล่นและเกมส์ออนไลน์ 70%

– สินค้าออฟฟิศออนไลน์ 63%

Amazon ยังเป็นหุ้นเติบโตมาโดยตลอด ล่าสุดไตรมาสแรกของปี ยอดขายสินค้าออนไลน์ก็โตเพิ่มขึ้นอีก 10% จากปีก่อนเป็นไตรมาสที่สองที่สามารถมีอัตราการเติบโตมากกว่า ค่าเฉลี่ยการเตอบโตของสินค้าออนไลน์ แถม Amazon ยังมีการจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายที่ดี เช่นการทำให้ไม่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐ 2 ปีติด

Warren Buffett เองก็ยอมรับว่าผิดพลาดที่ไมได้ซื้อหุ้น Amazon ในช่วงที่ผ่านมา และโดยส่วนตัวแล้ว Warren Buffett เองมีความชื่นชอบการทำงานความเป็นผู้นำของ Jeff Bezos อยู่เหมือนกัน

ถึงแม้ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมามีแนวโน้ม ว่า Warren Buffett จะซื้อหุ้น Amazon เอง แต่ว่าไม่ใช่เลย ดับกลายเป็นTodd Combs และ Ted Weschler ที่มีหน้าที่และอำนาจในการบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่า 13,000 ล้านเหรียญของ Berkshire และนี่ไม่ใช่เพียงครั้งแรกที่ warren Buffett ไม่ได้ทำการตัดสินใจในการเข้าซื้อหุ้นหรือขายหุ้น

จะเห็นได้ว่าอนาคตของ Berkshire Hathaway หลังจาก Warren Buffett ก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ Warren Buffet ก็ค่อยๆปล่อยมือจากการตัดสินใจหลัก มาเป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจแทน เราก็คงทำแต่รอดูต่อไปครับว่าหลังจาก Warren Buffet แล้ว Berkshire Hathaway จะยิ่งใหญ่เช่นเดิมรึเปล่า

ทำไม Amazon ไม่ยอมจ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางแม้แต่แดงเดียว

ทำไม Amazon ไม่ยอมจ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางแม้แต่แดงเดียว

Amazon บริษัท E-commerce ที่ใหญ่ระดับโลกที่ทำให้ Jeff Bezos ได้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จากการที่บริษัทมียอดขายแล้วทั่วโลก ทำรายได้มหาศาล มูลค่าหุ้นของ Amazon ทำราคาสูงสุดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่….

ปีล่าสุด 2018 Amazon ไม่จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลกลาง แถมยังได้รับเงินจาก จากรัฐบาลกลางอีก 129 ล้านเหรียญ จากการเครดิตภาษีคืน และนี่ไม่ใช่ปีเดียวที่ไม่จ่าย ปีก่อนหน้านี้ Amazon ปี 2017Amazon ก็ไม่จ่ายภาษีให้รัฐบาลกลาง จนประธานาธิบดี Trump ต้องออกมา Tweet ว่า กังวลเกี่ยวกับการจ่ายภาษีของAmazon

แต่ที่น่าตลก ส่วนหนึ่งที่ Amazon ไม่ต้องจ่ายภาษีมาจานโยบายทรัมป์เองที่ลดภาษีจาก 35 เปอร์เซ็นเหลือ 21 เปอร์เซ็น ซึ่งได้ผ่านสภาคองเกรสในปี 2017 นั่นเอง

ค่าใช้จ่ายหลักๆที่ทำให้ Amazon ไม่ต้องจ่ายภาษี

โดยปกติแล้วภาษีที่ต้องจ่ายให้กับรัฐบาลนั้นคิดจากกำไรสุทธิ วีที่ทำให้กำไรสุทธิลดลงนั้นทำได้จากการ เพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ เรามาดูกันครับว่า Amazonมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจโดยตรงกันครับ

ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา(Research & Development)

Amazon เป็นบริษัทต้นๆของโลกที่มีค่าใช้จ่ายวิจัยและพัฒนา (Research & Development) ใรปี 2017 มีค่าใช่จ่ายมากกว่า 2,2600ล้านเหรียญต่อปีเลยทีเดียว

ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ดินอาคาร และอุปกรณ์(Property Plant and Equipment)

ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นโดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดมาอยู่ที่ 60,000 ล้านเหรียญ

ค่าใช้จ่ายผลตอบแทนพนักงาน

Amazon ให้ผลตอบแทนนอกจากเงินแล้วยังให้ในรูปแบบของหุ้นอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องเสียเงินมาก สำหรับค่าใช้จ่ายถ้าจ่ายเป็นหุ้นจะหักภาษีได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับราคาหุ้น ทำให้เวลาหุ้นขึ้นทุกฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ทั้ง ผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร และพนักงาน

ถึงแม้การที่ Amazon จะไม่จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลนั้นส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้น แต่สำหรับรัฐบาลแล้วการไม่เสียภาษีแบบนี้ทำให้รัฐบาลขาดโอกาสนำเงินไปพัฒนาประเทศต่อ ผมไม่แน่ใจว่าทางAmazon ตั้งใจหรือไม่ตังใจไม่จ่ายภาษี แต่ถ้าผู้อ่านมีโอกาสที่จะต้องเสียภาษี ผมแนะนำเสียดีกว่าครับ

งบกาเงิน amazon : : https://ir.aboutamazon.com/static-files/ce3b13a9-4bf1-4388-89a0-e4bd4abd07b8

error: Content is protected !!