ผลการดำเนินงานและภาพรวม ไตรมาส 1 ปี 2562ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม – PTTEP
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมหรือที่เรียกว่า ปตท.สผ. ประกอบธุรกิจด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจขนส่งก๊าซทางท่อในต่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่อง
ปัจจัยที่มีผลต่อกำไรบริษัทในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2562
ค่าเงินบาทในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2562
บริษัท ปตท.สผ. นั้นคิดกำไร-ขาดทุนเป็นเงินดอลลาร์ แต่เวลาส่งงบจะเป็นเงินบาท การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำไรขาดทุนจริงของ ปตท.สผ. แต่จะพูดว่าจะไม่กระทบเลยก็ไม่ใช่ เพราะเงินภาษีที่คิดก็คิดจากเงินบาท คิดจากกำไรบริษัท บริษัทต้องแปลงกำไรในรูปดอลลาร์เป็นเงินบาทก่อนค่อยคิดภาษี ทำให้ยิ่งเงินบาทยิ่งอ่อนค่ามูลค่ากำไรในรูปเงินบาทยิ่งสูง ภาษียิ่งต้องเสียเยอะ ณ ตอนสิ้นเดือนมีนาคม 2562 ค่าเงินอยู่ที่ 31.81 บาทต่อดอลลาร์สิ้นปี 2561 อยู่ที่ 32.45 ส่งผลดีต่อเรื่องภาษี
ราคาน้ำมันดิบในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2562
ราคาน้ำมันดิบดูไบ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เฉลี่ยทั้งไตรมาสมาอยู่ที่ 63.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สาเหตุเพราะ
– องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC) และรัสเซียร่วมกันลดกำลังผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
– สหรัฐคว่ำบาตรเวเนซุเอลา
– การคว่ำบาตรอิหร่าน
ก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas,LNG) ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2562
ราคาเฉลี่ยปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 6.69 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู เพราะมีโครงการเกิดใหม่ค่อนข้างมากจาก ออสเตรเลีย รัสเซีย อเมริกา กำลังผลิตอยู่ที่ 324 ล้านตันต่อปี ขณะความต้องการอยู่ที่ 297 ล้านตันต่อปี
ความต้องการใช้พลังงานในประเทศในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2562
อยู่ที่ 2.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 4% ถ้าเทียบกับเดือนมกราคมถึงมีนาคม ปี 2561
แนวโน้มภาพรวมธุรกิจในอนาคต
ค่าเงินบาทในอนาคต
ค่าเงินบาทในอนาคตทีแนวโน้มอ่อนตัวเนื่องจาก
– เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว และนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะถือสินทรัพย์ปลอดภัย (ทองคำ,ดอลลาร์,เยน) มากขึ้น
– เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะโต 4.0% น้อยกว่าปีที่แล้ว จากปัญหากีดกันการค้าของสหรัฐ การชะลอตัวเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า
ราคาน้ำมันดิบในอนาคต
ราคาน้ำมันดิบในอนาคตมีแนวโน้มผันผวนอยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเนื่องจาก
– การผลิตปริมาณสูงในสหรัฐและการขยายท่อส่งน้ำมันดิบในครึ่งปีหลัง
– องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC) และรัสเซียมีแนวโน้มกำลังการผลิตลดลง
– การคว่ำบาตรอิหร่าน
– ปัญหาการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (BREXIT)
ก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas,LNG) ในอนาคต
กำลังการผลิตมีมากกว่าความต้องการ กำลังการผลิตคิดว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 365 ล้านตันต่อปี ขณะที่ความต้องการมีเพียง 311 ล้านตันต่อปี คาดว่าราคา Asian Spot LNG จะอยู่ที่ 5.7- 8.2 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู
ปริมาณการขายน้ำมันดิบ
ปริมาณการขายน้ำมันดิบเฉลี่ยมกราคมถึงมีนาคม 2562 อยู่ที่319,230 บาร์เรลต่อวัน
(โครงการบงกชปิดซ่อมบำรุงเนื่องจากพายุโซนร้อนปลาบึก)
ปริมาณการขายน้ำมันดิบเฉลี่ยตุลาคมถึงธันวาคม 2562 อยู่ที่ 320,905 บาร์เรลต่อวัน
ปริมาณการขายน้ำมันดิบเฉลี่ยมกราคมถึงมีนาคม 2561 อยู่ที่ 293,099 บาร์เรลต่อวัน
(สัดส่วนลงทุนบงกชน้อยกว่าปี 62)
รายได้รวม
รายได้รวมมกราคมถึงมีนาคม 2562 – 1,428 ล้านดอลลาร์ (45,147 ล้านบาท)
รายได้รวมมกราคมถึงมีนาคม 2561 – 1,240 ล้านดอลลาร์ (39,105 ล้านบาท)
ค่าใช้จ่ายรวม
ค่าใช้จ่ายรวมมกราคมถึงมีนาคม 2562 – 929 ล้านดอลลาร์ (29,377 ล้านบาท)
ค่าใช้จ่ายรวมมกราคมถึงมีนาคม 2561 – 814 ล้านดอลลาร์ (25,678 ล้านบาท)
กำไรสุทธิรวม
กำไรสุทธิรวมมกราคมถึงมีนาคม 2562 – 394 ล้านดอลลาร์ (12,479 ล้านบาท)
กำไรสุทธิรวมมกราคมถึงมีนาคม 2561 – 423 ล้านดอลลาร์ (13,381 ล้านบาท)
ที่มา
https://www.pttep.com/th/Investorrelations.aspx
https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=PTTEP&ssoPageId=3&language=th&country=TH
https://www.settrade.com/C13_FastQuote_Main.jsp?txtSymbol=PTTEP