6 เทคนิคการเล่นหุ้นของมนุษย์เงินเดือน

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

มนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ คน สนใจในการการเล่นหุ้นหรือการลงทุนในตลาดหุ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีเลยสำหรับรู้จักการต่อยอดทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เจริญงอกงาม วันนี้เราเลยจะมาพูดเรื่องของการเล่นหุ้นหรือการลงทุนในตลาดหุ้นสำหรับมนุษย์เงินเดือนกันครับ
สิ่งสำคัญสำหรับการเล่นหุ้นหรือการลงทุนในตลาดหุ้นคือกำไร แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว การที่ไม่กระทบกับงานของมนุษย์เงินเดือน

อย่าซื้อหุ้นเกินกว่าที่จะดูแลไหว
การซื้อหุ้นหลายตัว แน่นอนมันก็หมายถึงการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน แต่ทว่าการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนนั้น ต้องแลกมาด้วยกับการทุ่มเทเวลาให้กับการหาข้อมูล การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของราคาหุ้น การเล่นหุ้นมาตัวเกินไปจะไม่ทำให้เรามัวแต่เอาเวลาไปสนใจกับหุ้นมากกว่างานของเรา

ใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์
นักลงทุนที่ดีนั้นควรที่จะใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์ หากเป็นนักลงทุนที่มีมูลค่าพอร์ตขนาดใหญ่ก็สามารถที่จะให้ทางผู้แนะนำการลงทุนทำหน้าที่ติดตามข้อมูลแทน แต่ถ้าไม่ใช่นักลงทุนรายใหญ่เราสามารถที่จะใช้เครื่องการตั้งโปรแกรมซื้อขายล่วงหน้าได้ไม่จำเป็นต้องเฝ้าจอตลอดเวลา

หลีกเลี่ยงหุ้นร้อนแรง
หุ้นร้อนแรงที่เกิดจากการปั่นของเข้ามือรายใหญ่นั้น ถึงแม้จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ไว แต่เราก็ต้องมีเวลาที่ใส่ใจเพราะเจ้ามือมีโอกาสทิ้งหุ้นได้ทุกเมื่อ หุ้นร้อนแรงเหล่านั้นถ้าเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง

หุ้นปันผล
สำหรับหุ้นปันผล เป็นผลตอบแทนที่เป็นส่วนแบ่งจากกำไรหุ้น เราต้องถือหุ้นไว้ระยะยาวถึงจะได้ผลตอบแทน ไม่มีความจำเป็นที่จำต้องติดตามข้อมูลภายในวัน สามารถหาข้อมูลได้จากตอนหลังเลิกงานได้

ดู Time frame ที่ใหญ่
สำหรับการลงทุนหุ้นหรือการเล่นหุ้น สำหรับมนุษย์เงินเดือน เราสามารถใช้วิธีทางเทคนิคได้ด้วย เพียงแต่ว่าเราจะต้องดูใน Time frame ที่ใหญ่

ทำการบ้านให้มากๆ หลังเลิกงาน
เราต้องรู้จักการเตรียมพร้อมหาข้อมูล ถ้าหากเราไม่สามารถติดตามข้อมูลในตลาดระหว่างวันได้มาก เราควรที่จะติดตามข้อมูลหลังเลิกงานแทน ไม่อย่างนั้นเราจะเสียเปรียบนักลงทุนคนอื่นๆในตลาดอย่างมาก เพราะนอกจากพวกเขาจะตามข้อมูลระหว่างวันแล้ว พวกเขาก็ยังทำการบ้านเกี่ยวกับการลงทุนหลังตลาดปิดอีกด้วย

สำหรับการเล่นหุ้นของมนุษย์เงินต้องยอมรับว่าค่อนข้างยาก แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เพียงแต่เราต้องมีความพยายามมากกว่าคนที่ลงทุนในหุ้นเต็มเวลา แต่อย่าคิดว่าการเล่นหุ้นเต็มเวลาจะใช่คำตอบของทุกคนเนื่องจากถ้าเรามีเงินต้นที่น้อย ต่อให้สร้างผลตอบแทนได้สูงก็ไม่มีประโยชน์ เช่น หากเรามีเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท ถึงแม้เราสร้างผลตอบแทนได้ถึง 100% ต่อปี ผลตอบแทนในรูปตัวเงินเราก็ได้เพียง 5,000 บาทต่อปี แต่ถ้าเรามีเงินลงทุน 1,000,000 บาท แต่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 20% นั่นก็หมายความว่าเราสร้างผลตอบแทนในรูปตัวเงินถึง 200,000 บาท