ตลาดหุ้นและมาตรการ QE เกี่ยวข้องกันอย่างไร?

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

ตลาดหุ้นและมาตรการ QE ถึงแม้หลายคนจะมองว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย ไม่ต้องไปสนใจ แต่อันที่จริงแล้วถ้าเราได้ศึกษาข้อมูลแล้วจะพบว่าตลาดหุ้นมีการขึ้นลงตาม QE และอันที่จริงแล้วตลาดหุ้นและมาตรการ QE มีความเกี่ยวข้องกันในหลายๆ ด้านมาก วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองกันครับ

QE นั้นย่อมาจากคำว่า Quantitative Easing แปลตรงตัวก็แปลว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ นั่นเอง สำหรับกระบวนการนั้น ทางธนาคารจะทำการเข้าไปซื้อพันธบัตร ส่งผลให้พันธบัตรราคาสูงขึ้น เมื่อราคาพันธบัตรราคาสูงขึ้นจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรลดลง และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยโดยภาพรวมลดลงนั่นเอง

QE หรือ Quantitative Easing นั้นเป็นมาตรการที่มีเป้าหมายเพื่อที่จะสามารถทำให้ต้นทุนในการกู้ยืมเงินลดลง ส่งผลดีต่อทั้งภาคธุรกิจ และการบริโภคภายในประเทศ

แต่เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงทำให้นักลงทุนหันไปมองหาสินทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทอื่นๆ มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมัน ทองคำ

และเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับการโยกย้ายเงินจากพันธบัตรไป คงหนีไม่พ้นตลาดหุ้น เนื่องด้วยตลาดหุ้นได้รับประโยชน์อย่างมากจากการที่อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้บริษัทในตลาดหุ้นมีต้นทุนในการกูยืมเงินลดลง ดอกเบี้ยที่จะจ่ายน้อยลง กำไรต้องเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดาอย่างมาก ทำให้ตลาดหุ้นเป็นเป้าหมายที่สำคัญสำหรับการโยกย้ายเงินจากมาตรการ QE

สำหรับสิ่งที่ต้องระวังนั้น การทำมาตรการ QE เป็นกลยุทธ์กระตุ้นเศรษฐกิจที่มีต้นทุนสูงมากเนื่องด้วยต้องนำเงินของรัฐบาล ไปซื้อพันธบัตร หากรัฐบาลมีเงินเยอะก็ดีไป แต่บางรัฐบาลอย่างรัฐบาลสหรัฐไม่มีข้อจำกัดด้านนี้เพราะไม่ต้องมีทองคำหนุนในการพิมพ์เงิน ทำให้รัฐบาลสหรัฐสามารถพิมเงินเท่าไหร่ก็ได้เพื่อมาซื้อพันธบัตร แต่นั้นก็ต้องแลกมาด้วยสภาวะเงินเฟ้อ ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลไหนๆจะสามารพิมพ์เงินได้จำกัดหรือไม่จำกัดก็ตามก็ต้องหยุดมากตรการ QE สักวัน

ส่งผลให้เงินจะออกจากตลาดหุ้นกับไปที่พันธบัตร นอกจากนั้นต้นทุนทางการเงินของบริษัทในตลาดหุนก็จะเพิ่มขึ้นส่งผลให้กำไรของหุ้นลดลง ทุกอย่างมีข้อจำกัดของมัน

สำหรับนักลงทุนที่หลงระเริงไปกับเงินที่ได้มาง่ายๆ จากตลาดหุ้นที่มาจากมาตรการ QE แล้ว ขอให้จงระวังให้ดีว่ามันจะต้องสิ้นสุดสักวัน ในวันนั้นท่านจะไม่สามารถหาเงินง่ายอย่างนี้อีกต่อไป ท่านต้องรู้จักป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนเพื่อไม่ให้เกิด สภาวะขาดทุนต่อไปในอนาคต