เจาะลึกเครื่องมือทางเทคนิค Stochastic Oscillator

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

Stochastic Oscillator ถือเป็นเครื่องมือทางเทคนิค ในการหาจังหวะซื้อหุ้นที่มีลักษณะของ Momentum โดนใช้การคำนวณจากราคาปิดของหลักทรัพย์ มีการใช้แนวรับ – แนวต้านใน Indicator ชนิดนี้ด้วย

สำหรับคคิดค้นเครื่องมือ Stochastic Oscillator ต้องยกความดีความชอบให้กับ George Lane ซึ่งได้คิดค้นในปลายยุค 1950 โดยการคำนวณราคาปัจจุบัน เปรียบเทียบกับช่วงราคาที่ผ่านมาช่วงหนึ่ง โดยพยายามทึี่จะคาดการณ์ถึงจุดกลับตัวของราคา

เริ่มต้นเรามาดูสูตรคำนวณสำหรับ Stochastic Oscillator กันเลยดีกว่า

High = ราคาสูงสุดใน 5 วัน

Low = ราคาต่ำสุดใน 5 วัน

Price = ราคาปิดวันล่าสุด

*** เราสามารถเปลี่ยน ช่วงเวลา 5 วันเป็นจำนวนวันอื่นๆได้เช่น 14 วัน ก็จะเป็นการหาราคาสูงสุดและต่ำสุด เท่านั่้นเอง

เมื่อเราจะได้ค่าทั้งหมดเราจะได้ค่า %K ออกมา

สำหรับ %D ให้เราคิดง่าย ๆ มันก็คือเส้น Moving average นั่นเอง

หลักการตีความ Stochastic Oscillator นั้นจะแบ่งด้วยกัน 2 ส่วน

  1. หลักการ Overbought – Oversold
  2. หลักการใช้ %D

หลักการ Overbought – Oversold

ก็คือการที่เราจะซื้อหุ้นหลักทรัพย์โดยการซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์ เมื่อหุ้นหรือหลักทรัพย์ราคาลงมาต่ำกว่า Oversold หรือค่า %K ที่ 20 และขายหุ้นเมื่อ Overbought หรือ % K มากกว่า 80นั่นเอง

หลักการใช้ %D

เราจะใช้ % D ในการหาแนวโน้มของ %K เราซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์เมื่อ %K มากกว่า %D และขายหุ้นหรือหลักทรัพย์เมื่อ %K น้อยกว่า %D

เราสามารถนำทั้งOverbought – Oversold และ %D มารวมกันได้

เราจะซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์เมื่อ %K น้อยกว่า 20 และ มีค่ามากกว่า %D

เราจะขายเราจะซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์เมื่อ %K มากกว่า 80 และ มีค่าน้อยกว่า %D

สำหรับตัวอย่างคือ หุ้น PTT

เส้นกรอบข้างล่างคือ Stochastic Oscillator คำนวณโดยการใช้ค่า 14 วัน

เส้นระหว่างสีม่วงข้างบนคือค่า 80 ข้างล่างคือค่า 20

เส้นสีน้ำเงินคือ %K

เส้นสีแดงคือ %D

เพื่อนๆสามารถลองฝึกหาจุดซื้อและจุดขายจากการใช้ Stochastic Oscillator ทั้งสาม วิธีดูครับ