Rebalancing พอร์ต เคล็ดลับการลงทุนทุกสภาวะตลาด

การ Rebalancing แปลตรงตัวก็คือการสร้างสมดุลให้เท่ากัน สำหรับ Rebalancing เป็นแนวคิดที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนเพราะจะช่วยให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ตลาดและลดความเสี่ยงจากการลงทุน

โดยแรกเริ่มเดิมทีการ Rebalancing พอร์ตการลงทุนจะ Rebalancing จะ Rebalancing เฉพาะในส่วนของกองทุนรวมหุ้นและกองทุนรวมตราสารหนี้ อย่างละ 50 เปอร์เซ็น

ยกตัวอย่างการทำ Rebalancing ระหว่างกองทุนรวมหุ้นและกองทุนรวมตราสารหนี้

เริ่มต้นลงทุนเงิน 200,000 บาท และต้อง Rebalancing ให้พอร์ตการลงทุนเป็นสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นตลอดเวลา

ดังนั้นแบ่งการลงทุนเป็นกองทุนรวมหุ้นราคาหน่วยละ 10 บาทลงทุน 10,000 หน่วย และกองทุนรวมตราสารหนี้ราคาหน่วยละ 10 บาทลงทุน 10,000 หน่วย ส่งผลให้ทั้งกองทุนรวมตราสารหนี้และกองทุนรวมหุ้นมูลค่าอย่างละ 100,000 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนเป็นดังนี้

กองทุนรวมหุ้น 10,000 x 10 = 100,000

กองทุนรวมตราสารหนี้ 10,000 x 10 = 100,000

มูลค่าพอร์ตทั้งหมด 100,000 + 100,000 = 200,000 บาท

ต่อมาตลาดหุ้นเกิดวิตกกังวลในเศรษฐกิจส่งผลให้มูลค่าหน่วยกองทุนรวมหุ้นมูลค่าเหลือ 5 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนมูลค่าเหลือ 150,000 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนเป็นดังนี้

กองทุนรวมหุ้น 10,000 x 5 = 50,000

กองทุนรวมตราสารหนี้ 10,000 x 10 = 100,000

มูลค่าพอร์ตทั้งหมด 100,000 + 50,000 = 150,000 บาท

เราต้อง Rebalancing พอร์ตเพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นเท่าเดิมเราต้องขายกองทุนรวมตราสารหนี้ 2,500 หน่วยมูลค่า 10 บาท และซื้อกองทุนรวมหุ้น 5,000 หน่วยมูลค่า 5 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนเป็นดังนี้

กองทุนรวมหุ้น 15,000 x 5 = 75,000

กองทุนรวมตราสารหนี้ 7,500 x 10 = 75,000

มูลค่าพอร์ตทั้งหมด 75,000 + 75,000 = 150,000 บาท

เมื่อวิกฤติตลาดหุ้นผ่านไป มูลค่ากองทุนรวมหุ้นมูลค่ากลับมา 10 บาทอีกครั้ง ส่งผลให้มูลค่ากองทุนรวมหุ้นเป็น 150,000 บาท และมูลค่าพอร์ตการลงทุนทั้งหมด 225,000 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนเป็นดังนี้

กองทุนรวมหุ้น 15,000 x 10 = 150,000

กองทุนรวมตราสารหนี้ 7,500 x 10 = 75,000

มูลค่าพอร์ตทั้งหมด 150,000 + 75,000 = 225,000 บาท

หลังจากนั้นทำการ Rebalancing พอร์ตอีกครั้งโดยการขายหน่วยกองทุนรวมหุ้น 3750 หน่วย และซื้อกองทุนตราสารหนี้ 3750 หน่วย ดังนั้นพอร์ตการลงทุนเราจะเป็น

กองทุนรวมหุ้น 11250 x 10 = 112,500

กองทุนรวมตราสารหนี้ 11250 x 10 = 112,500 มูลค่าพอร์ตทั้งหมด 112,500 + 112,500 = 225,000 บาท

จะเห็นได้ว่าเพียงแค่มูลค่ากองทุนรวมหุ้นกลับมาเท่าเดิมเราก็สามารถทำกำไรได้แล้วถึง 25,000 บาท น่าสนใจทีเดียวสำหรับการลงทุน

ข้อดีของการ Rebalancing พอร์ตการลงทุน

• ไม่ว่าตลาดขึ้นหรือหุ้นลง ก็จะเป็นโอกาสในการลงทุนของเราถ้าตลาดราคาลง เราก็จะมีโอกาสซื้อสินทรัพย์ราคาถูก แต่ช่วงที่ราคาแพงก็จะมีโอกาสขายทำกำไร
• ความเหวี่ยงของตลาดส่งผลให้มูลค่าพอร์ตลดลง จากตัวอย่างที่หุ้นราคาตกถ้าเราลงทุนกองทุนรวมหุ้น 100 เปอร์เซ็น พอร์ตการลงทุนเราจะลดลง 50 เปอร์เซ็นเลย

สำหรับการปรับปรุงพอร์ตการลงทุนเราสามารถเพิ่มอัตราส่วนสินทรัพย์อื่นๆ ได้เช่น ทองคำ Cryptocurrency เราอาจจะแบ่งพอร์ตการลงทุนเป็น หุ้น 30 เปอร์เซ็น ตราสารหนี้ 60 เปอร์เซ็น และทองคำ 10 เปอร์เซ็น
เราสามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้ตามที่เราต้องการขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของทรัพย์สินแต่ละประเภท

สำหรับการกำหนดว่าเราจะ Rebalancing พอร์ตตอนไหนนั้นมี 2 วิธี

• ใช้เรื่องของเวลา เช่น ปรับพอร์ตทุกเดือน ทุก 3 เดือน หรือทุกปี
• ปรับพอร์ตเมื่อมีสัดส่วนการลงทุนเปลี่ยนแปลง เช่น เมื่อตลาดหุ้นลดลง 10 เปอร์เซ็นเราจะปรับพอร์ตการลงทุน