6 เทคนิคดู Opportunity Day (Oppday) อย่างไรให้ ทำกำไรจากหุ้นได้

Opportunity Day (Oppday) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาให้ข้อมูลกับนักลงทุน โดยนักลงทุนจะสามารถรับชมข้อมูลได้ 2 ทาง คือรับชมสด ๆ ณ สถานที่ ที่ตลาดหลักทรัพย์จัดให้ หรือรับชมออนไลน์ใน Website ของตลาดหลักทรัพย์

Opportunity Day (Oppday) มีประโยชน์มาก ๆสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่เสียเปรียบนักลงทุนสถาบันหรือนักลงทุนรายใหญ่ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลบริษัทได้มากกว่าเป็นการลดช่องว่าง

ทีนี้เราจะมาดูว่าทำยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ศึกษาข้อมูลก่อน

การศึกษาข้อมูลก่อนจะทำให้เราตามข้อมูลได้ดี เพื่อจะติดตามการพูดของผู้บริหารได้ดีและบางทีอาจจะมีศัพท์เทคนิคค่อนข้างเยอะ ถ้าเราอ่านข้อมูลมาอย่างดีเราจะสามารถติดตามการพูดของ นักลงทุนสัมพันธ์หรือผู้บริหารพูดได้อย่างเข้าใจ

จดรายละเอียดให้ครบถ้วน

ทุกรายละเอียดที่ผู้บริหารพูดมักจะมีรายละเอียดที่เป็นสัญญาณว่ากำไรหุ้น จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแต่อาจไม่พูดออกมาตรงๆ หรือเด่นชัดมากนัก

อย่าดู Opportunity Day (Oppday) แค่บริษัทที่เราถือหุ้น

เราต้องดูบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันว่า บริษัทคู่แข่งที่เราถือหุ้นจะมีกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร ในบางครั้งหุ้นบริษัทคู่แข่งอาจจะน่าสนใจมากกว่า อย่าง Peter Lynch เองเขามักจะไปพูดคุยกับผู้บริหารแต่ไม่ลงทุนกับบริษัทนั้นกับเลือกลงทุนบริษัทคู่แข่งแทน

หากสงสัยให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

เราสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ในระหว่าง Opportunity Day (Oppday) แต่ว่าด้วยที่มีเวลาจำกัดเราไม่สามารถสอบถามในเวลาได้หมด แต่ว่าเราสามารถี่จะไปสอบถามข้อมูลทีหลังได้โดยการโทรไปที่ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์บริษัท

ทำการบ้านจากข้อมูลใน Opportunity Day (Oppday) เพิ่ม

การทำกำไรจากตลาดหุ้นไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ แต่เราสามารถทำได้โดยความขยันขันแข็งของเรา เราต้องรู้ลึกทุกแง่มุมของหุ้นตัวนั้นมากกว่าคนอื่น เพื่อที่จะได้กำไรมากกว่าคนอื่น ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม

อย่าเชื่อทุกอย่างที่ผู้บริหารพูด

ผู้บริหารมักพูดในสิ่งที่ต้องการจะเป็น แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะประสบความสำเร็จ เราสามารถดูผลงานย้อนหลังเปรียบเทียบกับผู้บริหาร ว่าสิ่งที่ผู้บริหารพูดกับสิ่งผลงานที่ได้มีความสัมพันธ์กันหรือไม่

สุดท้ายแล้วในฐานะนักลงทุนเราควรที่จะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นนั้นให้รอบด้าน เพื่อที่จะสามารถทำกำไรให้ได้มากกว่าตลาดในระยะยาว แต่อย่าถึงกับมั่นใจในบริษัทมากเกินไป อย่าลืมว่าแม้แต่ผู้บริหารก็ไม่สามารถคาดเดาอนาคตบริษัทได้ 100%