สรุป Oppday บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) SPRC ไตรมาส 2 2562

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

ความพร้อมกำลังผลิตในระดับที่สูงที่ 98.8% แต่ด้วยภาวะดีมานด์ที่ลดลงมีการลดลงสำหรับอัตราการกลั่น 85.1% สำหรับค่าการกลั่นเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.57 เหรียญต่อบาร์เรล สำหรับค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอยู่ที่ 1.81 เหรียญต่อบาร์เรล

พ.ย 2019 จะมีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่และมีการเพิ่มกำลังการผลิต จาก 165,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 175,000 บาร์เรลต่อวัน โดยใช้เวลทั้งหมด 40- 50 วัน

สภาพตลาดน้ำมัน

มีความต้องการใช้ 1.2 – 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่มีการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ไตรมาส 2 ราคาน้ำมันมีราคาที่สูงขึ้นมาที่ 67 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ไตรมาส 1อยู่ที่ 63 เหรียญเกิดจาก มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

ส่วนต่างน้ำมันเบนซินในไตรมาสนี้อยู่ที่ 8 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 4 เหรียญต่อบาร์เรล เกิดจากการที่ การผลิตลดลงจากการปิดโรงกลั่นในที่ต่างๆ

สำหรับน้ำมัน ดีเซล และ น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินอยู่ที่ 12 เหรียญเท่ากัน ลดลงนิดหน่อยจากไตรมาสที่แล้วที่ 13 บาร์เรล แต่สำหรับน้ำมันดีเซลมีกำลังการผลิตมีเกินความต้องการ ขณะที่น้ำมันเชื้อเพลิงเครืองบินความต้องการคงที่

สำหรับส่วนต่างราคาน้ำมันเตาอยู่ติดลบ 2 เหรียญต่อบาร์เรล เกิดจากการที่น้ำมันเตาคงคลังในสิคงโปร์สูงขึ้น

สำหรับความต้องการน้ำมันในประเทศไทยยังคงดีอยู่ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล

การซื้อน้ำมันของบริษัท

บริษัท SPRC ส่วนใหญ่มีการซื้อน้ำมันดิบจาก Middle East อยู่ในระดับที่ 67%  รองลงมาคือในประเทศ 21% และ Far East 12%

สำหรับสินค้าต่างๆที่ผลิตมีการปรับตามสภาวะตลาด เช่นการลดการผลิตน้ำมันเบนซิน เทียบกับปีที่แล้ว ที่มีการผลิตถึง 25% แต่ในปีนี้มีการผลิตลดลงเป็น 23% และตลาดส่วนใหญ่ของบริษัทจะอยู่ในประเทศ

ผลประกอบการ

ราคาน้ำมันปีที่แล้วตกมาที่ 53 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ปีนี้ขึ้นมาที่ 67 เหรียญทำให้มีการรับรู้ของกำไรจาก Stock น้ำมันในครึ่งปีแรก แต่พอสิ้นไตรมาสที่ 2 มีการปรับตัวลดลง ทำให้มีการปรับราคาตลาดให้ต่ำกว่าราคาต้นทุน เรียกว่า LCM ทำให้สิ้นไตรมาส 2 โดยรวมมี stock loss 0.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล การแข็งค่าของสกุลเงินบาท ทำให้มีการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย

สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน(OPEX)ไตรมาสนี้แบ่งออกเป็น 2 ก้อน

ก้อนแรก  1.81 เหรียญต่อบาร์เรลค่าใช้จ่ายการดำเนินงานทั่วไป สำหรับอีกก้อนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงานในการ shut down และการขยายกำลังการผลิตที่จะถึงนี้มีมูลค่า 2.08 เหรียญต่อบาร์เรล

กำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย(EBITDA) ไตรมาส 2 ติดลบ 5.6 ล้านเหรียญ

กำไรสุทธิ ติดลบ 18.9 ล้านเหรียญ

มีการกู้เงินระยะสั้น 102.6 ล้านเหรียญ