เจาะลึกโลกที่ไร้ LIBOR – The London Interbank Offered Rate

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

The London Interbank Offered Rate (LIBOR) คือ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ที่ธนาคารระหว่างประเทศให้ยืมเงินระยะสั้นกับธนาคารระหว่างประเทศอื่น

ทำไม LIBOR ถึงมีความสำคัญ?

LIBOR คือค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารใหญ่ๆของโลกที่ยืมเงินซึ่งกันและกัน และเป็นอัตราดอกเบี้ยค่าเงิน 5 สกุลหลัก ๆ คือ ดอลลาร์ ยูโร ปอนด์ เยน สวิสฟรัง และมีอายุการยืมที่แตกต่างกันไปถึง 7 แบบ ทั้งข้ามคืน 1อาทิตย์ 1เดือน 2เดือน 3เดือน ครึ่งปี หนึ่งปี

สิ่งที่ทำให้ LIBOR มีความสำคัญส่วนหนึ่งก็คือสถานที่ตั้ง ลอนดอน แต่เดิมเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงินทำให้มีบริษัทการเงินมาเปิดที่นี่มากมาย ทำให้ LIBOR เป็นสิ่งที่อ้างอิงไปทั่วโลก

LIBOR เพิ่มขึ้นหรือลดลงสะท้อนอะไร?

ในเวลาที่ธนาคารแต่ล่ะแห่งไม่เชื่อใจกันและกัน กลัวเกิดความเสี่ยงผิดชำระหนี้ ธนาคารจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชดเชยความเสี่ยง ส่งผลให้ LIBOR เพิ่มขึ้น LIBOR เพิ่มขึ้นหรือลดลงจะสามารถสะท้อนความเสี่ยงสถาบันการเงินได้

สถาบันการเงินและเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์กัน ถ้าหากเศรษฐกิจดีสถาบันการเงินก็มีความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีสถาบันการเงินก็ลดความน่าเชื่อถือ ดังนั้น LIBOR ยังสะท้อนเศรษฐกิจอีกด้วย

ยุคสิ้นสุด LIBOR

LIBOR เดิมทีมองว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยปลอดความเสียง (Risk free rate) เพราะเกิดจากธนาคารระดับต้นๆของโลก ไม่เคยผิดชำระหนี้ แต่ด้วยปี 2008 วิกฤติเศรษฐกิจที่ผานมาทำให้ความเชื่อเปลี่ยนไป ธนาคารระดับโลกหลายๆได้มีการผิดชำระหนี้ นอกจากนั้นผู้ให้ข้อมูลหลายๆแห่งได้มีการบิดเบือนดอกเบี้ย LIBOR และพยายามสร้างให้ฐานะการเงินของสถาบันการเงินดีกว่าความเป็นจริง

Financial Conduct Authority(FCA) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลของอังกฤษ ออกมาประกาศว่าจะไม่บังคับให้ธนาคารต้องส่งข้อมูลเพื่อคำนวณอัตราดอกเบี้ย LIBOR หลังปี2021 อีกต่อไป ทำให้มีโอกาสที่ LIBOR จะสาบสูญไปจากโลกนี้