4 สาเหตุราคาซื้อขายหุ้น Uber วันแรกราคาลงกว่า 7.6 เปอร์เซ็น!!!

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

Uber หรือเรียกภาษาไทยว่า อูเบอร์ ก่อตั้งโดย Travis Kalanick และ Garrett Camp ในปี 2009 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย Uber เป็นบริษัท Disruption Technology หรือบริษัทที่ทำลายการทำธุรกิจเก่าๆอย่าง Taxi

Uber ทำลายTaxi ยังไง

จากที่เราต้องมาเหนื่อยโบกรถ Taxi อยู่ข้างถนน พอโบกได้ก็บอกว่าไปเติมแก๊สอีก  Uber เลยจัดทำ Application ในมือถือเข้ามา จากนั้นก็ให้ผู้โดยสารกดเรียก รถที่ให้บริการในเครือของ Uberแล้วนั่งรอ กินกาแฟ ชิวๆ ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยไปเรียกTaxi แล้วโดนปฏิเสธอีก

ซื้อขายในตลาดหุ้น

บริษัท Uber ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งสามารถเข้าไปทำการซื้อขายในตลาด New York Stock Exchange ได้ สามารถขายหุ้นราคา IPO(ราคาขายให้กับนักลงทุนก่อนซื้อขายในตลาดหุ้น) ที่ราคา 45 เหรียญต่อหุ้น ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่ามากกว่า 7,5000 ล้านเหรียญ ซื้อขายวันแรกวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาลดลงทันที่ 7.6% มาอยู่ที่ 42 เหรียญต่อหุ้น

4 สาเหตุที่ทำให้หุ้นราคาลง

1. สหรัฐประกาศเก็บภาษีรัฐบาลจีน 25%

การที่สหรัฐประกาศเก็บภาษีรัฐบาลจีนนั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั้งสหรัฐและจีนถูกนักลงทุนเทขายหุ้นเป็นจำนวนมาก แน่นอน ราคาหุ้นทุกตัวในตลาดลดลงไม่เว้นแม้แต่หุ้น Uber

2. บริษัทยังคงขาดทุน

บริษัท Uber ขาดทุนประมาณ 800 ล้านเหรียญต่อไตรมาส คนที่ซื้อหุ้นต้องมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าซักวันหนึ่ง บริษัท จะสามารถทำกำไรได้ แต่นักลงทุนจำนวนมากไม่ทนรอถึงวันนั้น และไม่เชื่อว่าจะทำกำไรได้

3. อยู่ในตลาดที่การแข่งขันอย่างรุนแรง

บริษัทอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงมาก มีทั้งคู่แข่งที่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นก่อนหน้าอย่าง Lyft และบริษัทอื่นๆอีกมากมาย ทั้งที่บริการก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากทางที่จะแย่งลุกค้ามาได้นั้นขึ้นอยู่กับราคานั่นเอง

4. มีปัญหากับผู้ขับรถให้บริการ

บริษัทมีปัญหาเรื่องค่าแรงและสวัสดิการที่ Uber ให้กับผู้ขับรถในเครือของบริษัท มีคนขับมากกว่า 6 หมื่นคนยื่นเอกสารความไม่พอใจสำหรับค่าแรงและสวัสดิการ ตีเป็นมูลค่ากว่า 146 ล้านเหรียญ ถึง 170 ล้านเหรียญ

โดยภาพรวม Uber เป็นบริษัทที่ดีสำหรับผู้ใช้บริการที่มีทางเลือกใหม่ๆให้เลือก และแก้ปัญหาต่างๆให้ผู้ใช้ได้ แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว Uber อาจจะไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนเท่าไหร่ เพราะ บริษัทไม่มีความได้เปรียบที่ยั่งยืนแบบที่เจ้าพ่อนักลงทุนเน้นคุณค่าอย่าง Warren Buffet ชอบ แต่ผมก็ไม่ได้การันตีว่าบริษัท Uber จะไม่ดีในอนาคต สำหรับคนที่จะลงทุนแล้วต้องศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดสำหรับการลงทุน บทความนี้เป็นมุมมองหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนใช้ในการตัดสินใจในการลงทุนครับ