วิธีการหามูลค่าบริษัทด้วยวิธี EV/EBITDA แบบละเอียด
นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้วิธีการคำนวณความถูกแพงของหุ้นด้วย P/E คือการเปรียบเทียบราคาหุ้นและกำไรสุทธิต่อหุ้น ในบางครั้งไม่ได้สะท้อนศักยภาพของธุรกิจที่แท้จริง บริษัทบางบริษัทมีสินค้าที่ดีมีความต้องการอย่างมาก แต่ด้วยภาระหนี้ที่สูงทำให้การหารายได้ต้องนำเงินมาใช้หนี้หมด หรือในบางครั้งที่บริษัทได้ลงทุนในช่วงแรก ในทางบัญชีบริษัทจำเป็นต้องหักค่าเสื่อมราคาทั้งที่ไม่ได้หักเงินสดบริษัทออกจริงๆ ทำให้กำไรบริษัทเหลือน้อย ทำให้มีการคิดค้น EV/EBITDA ขึ้นมาเพื่อที่จะมองการซื้อบริษัทและกระแสเงินสดจากิจการบริษัทที่แท้จริง
อ่านบทความ:ดูว่าหุ้นราคาถูกหรือแพงด้วย PE (กำไรต่อหุ้น)
อ่านบทความเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าหุ้น
Enterprise value (EV) มีหลากหลายชื่ออย่างเช่น total enterprise value (TEV), or firm value (FV) ใช้ในการประเมินมูลค่าบริษัทว่าบริษัทมีมูลค่าเท่าไหร่ ใช้สำหรับนักลงทุนที่จะดูว่าบริษัทนี้ถ้าเราจะซื้อทั้งบริษัทหรือเรียกว่า Take over เลยจะมีมูลค่าเท่าไหร่
สูตรการคำนวณ
EV=MC+Total Debt−C
EV= Enterprise value
MC = Market cap สามารถคำนวณด้วยการนำราคาตลาดของหุ้นตัวนั้น คูณด้วย จำนวนหุ้น
เช่น หุ้น B ราคาซื้อขายในตลาดหุ้นอยู่ที่ 200 บาทต่อหุ้น มีหุ้น A ทั้งหมด 2 ล้านหุ้น ดังนั้น Market cap หุ้น B เท่ากับ 400,000,000 บาท
Total Debt = จำนวนหนี้ทั้งหมดของบริษัท
ยกตัวอย่างการหา Enterprise value (EV)
บริษัท B มีจำนวนหุ้น 2 ล้านหุ้น ราคาตลาดอยู่ที่ 200 บาทต่อหุ้น มีหนี้สินทั้งหมด 100 ล้านบาท มีเงินสด 20 ล้านบาท
Market cap = 200,000 x 2,000,000 = 400,000,000 บาท
หนี้สินทั้งหมด = 100,000,000 บาท
เงินสด = 20,000,000 บาท
Enterprise value (EV) ของหุ้น B = 400,000,000 + 100,000,000 – 20,000,000 =480,000,000 บาท
EBITDA ชื่อเต็มคือ Earnings before interest tax depreciation and amortization แปลว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย เป็นการคิดคำนวณย้อนกลับโดยมีหลักคิดว่าถ้าคิดย้อนกลับไปแล้วเราคิดแต่กำไรที่เกียวกับการดำเนินงานโดยตรงไม่เกี่ยวกับปัจจัยอื่นแล้วกิจการจะกำไรเท่าไหร่
สูตรการคำนวณ
EBITDA = กำไรสุทธิ – ดอกเบี้ย – ภาษี – ค่าเสื่อม- ค่าตัดจำหน่าย
สูตรการหา EV/EBITDA
Enterprise value (EV) หารด้วย Earnings before interest tax depreciation and amortization (EBITDA)

เช่น
บริษัท A มี Enterprise value (EV) 100 ล้านบาท EBITDA 10 ล้านบาท
EV/EBITDA ของ A เท่ากับ 10 เท่า
บริษัท A มี Enterprise value (EV) 200 ล้านบาท EBITDA 50 ล้านบาท
EV/EBITDA ของ B เท่ากับ 4 เท่า
ดังนั้นบริษัท B มีมูลค่าที่ถูกกว่าบริษัท A โดยใช้วิธีการ EV/EBITDA
ดังนั้นยิ่ง EV/EBITDA มีค่าต่ำเท่าไหร่แสดงว่าบริษัทมีราคาถูกน่าซื้อมากกว่า บริษัทที่มี EV/EBITDA ที่สูง