เจาะลึกลงทุนตราสารหนี้-พันธบัตรต้องเสียภาษีอะไรบ้าง

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

การลงทุนในตราสารหนี้ – พันธบัตรรัฐบาล นักลงทุนจะได้กำไรจากสามส่วนคือส่วนต่างราคา ดอกเบี้ย เงินได้ส่วนลด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการคิดภาษี เพื่อให้รัฐบาลนำเงินไปพัฒนาประเทศต่อไป นอกจากนั้นการคิดภาษียังต้องคำนึงถึงประเภทนักลงทุนด้วยซึ่งมีทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ในประเทศและต่างประเทศ

เงินได้ดอกเบี้ยบุคคลธรรมดาในประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และมีสิทธิเลือกที่จะไม่นำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี

กำไรจากการขายบุคคลธรรมดาในประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และมีสิทธิเลือกที่จะไม่นำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี

ยกเว้น ตราสารหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ยที่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ไปแล้วจากผู้ถือคนแรก

เงินได้จากส่วนลดบุคคลธรรมดาในประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เฉพาะผู้ถือคนแรก และมีสิทธิเลือกที่จะไม่นำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี

เงินได้ดอกเบี้ยบุคคลธรรมดาต่างประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย15% และมีสิทธิเลือกที่จะไม่นำไปรวม คำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี 

ยกเว้น สถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เกษตรกรรม หรือ ดอกเบี้ยพันธบัตรองค์การของรัฐบาล หุ้นกู้ของรัฐบาล

กำไรจากการขายบุคคลธรรมดาในต่างประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย15%  และมีสิทธิเลือกที่จะไม่นำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี 

ยกเว้น
– กำไรจากการขาย ตราสารหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ยที่ได้ หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ไปแล้ว จากผู้ถือคนแรก 
– พันธบัตร รัฐบาลองค์การของรัฐลาล สถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงิน เพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม

เงินได้จากดอกเบี้ยอัตราภาษีของนิติบุคคลในประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 1% และให้นำไปรวมกับ การคำนวณ กำไรสุทธิด้วย 
หักภาษี ณ ที่จ่าย 10 % ในกรณีที่ผู้รับเป็นมูลนิธิ หรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดและ ผู้จ่ายเป็นบริษัท หรือห้างหุ้น-ส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการในไทย หรือเป็นธนาคารพาณิชย์ บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจ-เครดิตฟองซิเอร์ 
ไม่หักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับกรณีผู้รับและผู้จ่ายเป็นธนาคารพาณิชย์ บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
กรณีผู้รับเป็นสถาบันการเงิน จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะใน อัตรา 3.3% ของเงินได้ใน ส่วนของดอกเบี้ย

กำไรจากการขายของนิติบุคคลในประเทศ

ไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ต้องนำไปรวมกับ การคำนวณ กำไรสุทธิด้วย

เงินได้จากส่วนลดของนิติบุคคลในประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 1% และให้นำไปรวมกับ การคำนวณ กำไรสุทธิด้วย 
 หักภาษี ณ ที่จ่าย 10 % ในกรณีที่ผู้รับเป็นมูลนิธิ หรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และ ผู้จ่ายเป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการ ในไทย หรือเป็นธนาคารพาณิชย์ บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ 
 ไม่หักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับกรณีผู้รับและผู้จ่ายเป็นธนาคารพาณิชย์ บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ 
กรณีผู้รับเป็นสถาบันการเงิน จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะใน อัตรา 3.3% ของเงินได้จาก ส่วนลด

เงินได้จากดอกเบี้ยอัตราภาษีของนิติบุคคลต่างประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ยกเว้น ดอกเบี้ยของพันธบัตรหรือดอกเบี้ยหุ้นกู้ของรัฐบาล หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมาย โดยเฉพาะของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงิน เพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม

กำไรจากการขายของนิติบุคคลต่างประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 15%  ยกเว้น พันธบัตรหรือหุ้นกู้ที่ออกโดยรัฐบาล องค์การของรัฐบาล หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม

เงินได้จากส่วนลดของนิติบุคคลต่างประเทศ

หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เฉพาะผู้ถือคนแรก

ยกเว้น พันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้ที่ออกโดยรัฐบาล องค์การของรัฐบาล หรือสถาบันการเงินที่มี กฎหมายโดยเฉพาะของประเทศ-ไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม