ทำไมถึงใช้ Adjusted Present Value (APV) แทน Net present value (NPV)
Adjusted Present Value (APV) คือมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของโครงการหรือบริษัท หากได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากส่วนของผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดียวบวกกับมูลค่าปัจจุบัน (PV) ของผลประโยชน์ทางการเงินใดๆ ซึ่งเป็นผลกระทบเพิ่มเติมของหนี้สิน เมื่อพิจารณาถึงผลประโยชน์ทางการเงินแล้ว Adjusted Present Value (APV) จะรวมเกราะป้องกันภาษีไว้ด้วย เช่น การให้ดอกเบี้ยที่นำไปหักลดหย่อนได้
มูลค่าของโครงการที่ใช้หนี้อาจสูงกว่าโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนทั้งหมด เนื่องจากต้นทุนของเงินทุนมักจะลดลงตามการก่อหนี้ ทำให้โครงการ NPV ติดลบบางโครงการกลายเป็นโครงการบวก ดังนั้น ภายใต้กฎ NPV โครงการอาจถูกปฏิเสธหากได้รับการสนับสนุนทางการเงินด้วยทุนเพียงส่วนเดียว แต่อาจได้รับการยอมรับหากมีการจัดหาเงินทุนด้วยหนี้สินบางส่วน
แนวทางการปรับปรุงมูลค่าปัจจุบันคำนึงถึงประโยชน์ของการเพิ่มหนี้เช่น การคุ้มครองภาษีดอกเบี้ย ซึ่ง NPV ไม่ทำ ด้วยเหตุนี้ การวิเคราะห์ Adjusted Present Value (APV) จึงเป็นที่นิยมในธุรกรรมที่มีเลเวอเรจสูง
Adjusted Present Value (APV) = มูลค่าบริษัทที่ไม่มีการโอน + ผลกระทบสุทธิของหนี้
สมมติว่าการคำนวณการประมาณการหลายปีพบว่ามูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดอิสระ (FCF) ของบริษัท บวกกับมูลค่าปลายทางคือ 200,000 บาท อัตราภาษีสำหรับ บริษัท คือ 30% และอัตราดอกเบี้ย 7% ภาระหนี้จำนวน 80,000 บาท มีการคุ้มครองภาษีดอกเบี้ย (80,000 x 30% x 7%) / 7% = 24,000 บาท
ดังนั้น Adjusted Present Value (APV) คือ 200,000 + 24000 = 224,000 บาท