เจาะลึกลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable)

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

คำว่าลูกหนี้หมายถึงการชำระเงินที่ไม่ได้รับการชำระเงิน ซึ่งหมายความว่าบริษัทต้องขยายวงเงินสินเชื่อให้กับลูกค้า โดยปกติบริษัทจะขายสินค้าและบริการทั้งเงินสดและเครดิต

เมื่อบริษัทให้เครดิตแก่ลูกค้า การขายจะเกิดขึ้นเมื่อมีการสร้างใบแจ้งหนี้ แต่บริษัทจะขยายระยะเวลาให้กับลูกค้าเพื่อชำระยอดหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปจาก 30 วันถึงสองสามเดือน

เครดิตมักจะได้รับเพื่อให้ได้ยอดขายหรือเพื่อตอบสนองต่อการให้เครดิตโดยคู่แข่ง การให้สินเชื่อแก่ลูกค้ามากขึ้นสามารถขยายจำนวนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของธุรกิจได้ ส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น

การขยายจำนวนสินเชื่อที่เสนอให้กับลูกค้าอาจหมายถึงหนี้เสียของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทรักษานโยบายสินเชื่อหลวมในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ เมื่อลูกค้าอาจประสบปัญหาในการชำระค่าใช้จ่าย

ลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable) ถือเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนในงบดุล มาทำความเข้าใจ ลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable)ด้วยความช่วยเหลือของตัวอย่าง สมมติว่าคุณเป็นผู้ผลิตกางเกง

ลูกค้าให้คำสั่งซื้อกางเกง 100,000 บาทแก่คุณจำนวน 1.000 ตัว ตอนนี้ เมื่อมีการสร้างใบแจ้งหนี้สำหรับจำนวนเงินนั้น การขายจะถูกบันทึก แต่เพื่อชำระเงิน บริษัทจะขยายระยะเวลาเครดิต 30 วันให้กับลูกค้า

จนถึงเวลานั้น จำนวนเงิน 00,000 บาทจะกลายเป็นบัญชีลูกหนี้ของคุณ เนื่องจากลูกค้าจะชำระเงินจำนวนนั้นก่อนสิ้นสุดระยะเวลา หากไม่เป็นเช่นนั้น บริษัทสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมล่าช้าหรือโอนบัญชีให้แผนกเรียกเก็บเงินได้

เมื่อชำระเงินแล้ว ส่วนเงินสดในงบดุลจะเพิ่มขึ้น 100,000บาท และลูกหนี้จะลดลงตามจำนวนเดียวกัน เนื่องจากลูกค้าได้ชำระเงินแล้ว