การจัดสรรพอร์ตตามอายุ ด้วยกฎ 100 ลบ

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

การจัดสรรพอร์ตการลงทุนนั้นมีความสำคัญอย่างมากโดยกาเปรียบเทียบระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทน ยิ่งผลตอบแทนสูงเท่าไหร่ความเสี่ยงก็จะมากขึ้นเท่านั้น

การจัดสรรพอร์ตการลงทุนจึงจำเป็นอย่างยิ่งเพราะแต่ล่ะคนมีการรับความเสี่ยงไม่เท่ากัน และแต่ล่ะช่วงวัยจะมีการรับความเสี่ยงไม่เท่ากัน

ทำไมวัยต่างกันถึงรับความเสี่ยงไม่เท่ากัน?

โอกาสที่จะผิดพลาดในการลงทุน – ในวัยที่เริ่มทำงานทำงานเราสามารถรับความผิดพลาดจากการลงทุนได้สูงเนื่องด้วยเรามีระยะเวลาที่เหลือมากในการแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดจากการลงทุน เราสามารถออมเงินมาลงทุนได้ใหม่ ในทางกลับกันในวัยที่อายุเยอะแล้ว เราไม่มีเวลาในการเก็บออมเงินมาก ถ้าเกิดผิดพลาดไปเราจะมีโอกาสฟื้นตัวน้อยกว่า

ภาระความรับผิดชอบ – ภาระความรับผิดชอบในแต่ล่ะวัยจะไม่เท่ากัน ในช่วงเริ่มต้นของการทำงานเรามีความรับผิดชอบน้อยรับผิดชอบเฉพาะชีวิตเราเอง แต่พออายุมากขึ้นความรับผิดชอบเราต้องเพิ่มขึ้นในเรื่องของการสร้างครอบครัวใหม่ มีคนในสมาชิกครอบครัวต้องพึ่งพารายได้จากเรา

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนสูง?

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและสร้างผลตอบแทนสูงสุดก็คือสินทรัพย์ในตลาดทุน อย่างหุ้นหรือกองทุนหุ้นนั่นเอง ในสภาวะที่เศรษฐกิจ ดีตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนสูงสุด แต่ในทางกลับกันในสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจหุ้นมูลค่าลดลงมากที่สุด

ส่วนทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำเราสามารถเลือกลงทุน พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้บริษัทชั้นดี รวมถึงเงินสดด้วย

กฎการจัดพอร์ตการลงทุนตามอายุด้วยกฎ 100 ลบ

หมายความว่าเราจะจัดพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างหุ้นในอัตราส่วน 100 ลบด้วยอายุของเรา เข่น

เราอายุ 20 ปี

เราจะลงทุนหุ้นในอัตราส่วน 100 – 20 = 80

ดังนั้นเราควรจะลงทุนหุ้นหรือกองทุนหุ้นในอัตราส่วน 80 เปอร์เซ็นของพอร์ตที่เหลือลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ

ถ้าเราอายุ 50 ปี

ดังนั้นเราควรจะลงทุนหุ้นหรือกองทุนหุ้นในอัตราส่วน 50 เปอร์เซ็นของพอร์ตที่เหลือลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ

ปรับความเสี่ยงขึ้นอยู่กับบุคคล

เราสามารถปรับความเสี่ยงได้ด้วยการเปลี่ยนตัวเลขจาก 100 เป็นเลขอื่นขึ้นอยู่กับการรับความเสี่ยง

ถ้าเราเป็นคนที่ค่อนข้างขึ้นกลัวให้เราปรับลดง เช่น 90

ตัวอย่างเราอายุ 50 ปี เราใช้เลข 90

จะคำนวณได้ 90- 50 = 40

ดังนั้นเราควรลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้น 40% ของพอร์ตด้วยวัย 50

ในทางกลับกันถ้าเรารับความเสี่ยงได้สูงผมแนะนำให้เพิ่มตัวเลขจาก 100 เป็นเลขที่สูงขึ้น เช่น 120

ตัวอย่างเราอายุ 50 ปี เราใช้เลข 120

จะคำนวณได้ 120- 50 = 70

ดังนั้นเราควรลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้น 70% ของพอร์ตด้วยวัย 50

กฎการจัดสรรการลงทุนพอจะเป็นแนวทางคร่าวๆในการจัดสรรพอร์ต ที่เราสามารถนำไปปรับใช้ได้เพื่อที่จำสามารถเกษียณอายุได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวว่าจะหมดตัวในวัยเกษีณเพราะมีการจัดสรรอย่างดีแล้ว