เจาะลึกเบต้า (beta – β) สำหรับการลงทุน

ช่วยแชร์ต่อนะครับ

เบต้า (beta – β) ของหลักทรัพย์การลงทุน (เช่น หุ้น) คือการวัดความผันผวนของผลตอบแทนเมื่อเทียบกับตลาดทั้งหมด เช่น set S&P500 ใช้เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงและเป็นส่วนหนึ่งของ Capital Asset Pricing Model (CAPM) บริษัทที่มีเบต้าสูงกว่ามีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังมากกว่า

ค่าสัมประสิทธิ์เบต้าสามารถตีความได้ดังนี้:

เบต้า (beta – β) =1 ผันผวนพอๆ กับตลาด
เบต้า (beta – β) >1 ผันผวนมากกว่าตลาด
เบต้า (beta – β) < 0 มีความผันผวนน้อยกว่าตลาด

เบต้าคำนวณโดยใช้การวิเคราะห์การถดถอย ตัวเลขแสดงถึงแนวโน้มที่ผลตอบแทนของหลักทรัพย์ตอบสนองต่อความผันผวนในตลาด สูตรสำหรับการคำนวณเบต้าคือความแปรปรวนร่วมของผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่มีการกลับมาของเกณฑ์เปรียบเทียบหารด้วยค่าความแปรปรวนของการกลับมาของเกณฑ์เปรียบเทียบในช่วงเวลาหนึ่ง

เบ

เบต้า (beta – β) เป็นตัววัดความผันผวนของหุ้นที่สัมพันธ์กับตลาดโดยรวม ตามคำจำกัดความ ตลาด เช่น ดัชนี S&P 500 มีเบต้า 1.0 และหุ้นแต่ละตัวจะได้รับการจัดอันดับตามความเบี่ยงเบนจากตลาดมากน้อยเพียงใด

หุ้นที่แกว่งตัวมากกว่าตลาดในช่วงเวลาหนึ่งมี เบต้า (beta – β) ที่สูงกว่า 1.0 หากหุ้นเคลื่อนไหวน้อยกว่าตลาด แสดงว่า เบต้า (beta – β) ของหุ้นจะน้อยกว่า 1.0 หุ้นเบต้าสูงน่าจะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า หุ้น เบต้า (beta – β) ต่ำมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าด้วย

จริงๆแล้วเราสามารถดูข้อมูลค่า Beta ได้จาโปรแกรมต่างๆ เช่น E- finance หรือรายงานบทวิเคราะห์ของโบรคเกอร์ก็จะแสดง ถ้าต้องการข้อมูล Beta หุ้นแต่ละตัวสามารถโทรสอบถามทางโบรกเกอร์ได้