กำไรขั้นต้น/อัตรากำไรขั้นต้น คืออะไรและบอกอะไร?
กำไรขั้นต้น = รายได้ – ต้นทุนขาย
รายได้ คือ ยอดขายสินค้า
เช่น ถ้าเราขายปากกาใน 1 เดือนจำนวน 100,000 ชิ้น ราคา 10 บาท
จะได้ยอดขาย 1,000,000 บาท
ต้นทุนขาย คือ ต้นทุนหลักที่ใช้ในการผลิต
เช่น ในการผลิตปากกาเราต้องใช้
ไส้ปากกา 100,000 ชิ้น ราคาชิ้นล่ะ 1 บาท รวมเป็นเงิน 100,000 บาท
ปลอกปากกา 100,000 ชิ้น ราคาชิ้นล่ะ 3 บาท รวมเป็นเงิน 300,000 บาท
จ้างพนักงานประกอบปากกา 30 คน คนล่ะ 10,000 บาทต่อเดือน รวมเป็นเงิน 300,000 บาท
รวมต้นทุนขาย 700,000 บาท
ต่อไปเรามาหากำไรขั้นต้นครับ
กำไรขั้นต้นสำหรับปากกา
จะเท่ากับ 1,000,000 – 700,000 = 300,000 บาท
ลำพังตัวเลขเฉพาะกำไรขั้นต้นบอกอะไรได้น้อยมากในการวิเคราะห์ว่าธุรกิจที่เรากำลังจะลงทุนนั้นดีหรือเปล่า เราเลยต้องใช้อีกตัวเลขหนึ่งก็คือ อัตรากำไรขั้นต้น
อัตรากำไรขั้นต้น = กำไรขั้นต้น หาร รายได้
จากข้อมูลธุรกิจปากกา
จะได้อัตรากำไรขั้นต้น
300,000 หาร 1,000,000 = 30%
นั้นหมายความว่าทุก 100 บาท บริษัทจะได้กำไรขั้นต้น 30 บาท
อัตรากำไรขั้นต้นบอกอะไรเรา?
1.การคาดการณ์กำไรขั้นต้นถ้ายอดขายเพิ่มหรือลดลง
เช่น
ถ้ากำไรเพิ่มขึ้นเป็น 2,000,000 บาท กำไรขั้นต้นจะได้ 2,000,000 x 30% = 600,000 บาท
ถ้ากำไรลดลงเหลือ 500,000 บาท กำไรขั้นต้นจะได้ 500,000 x 30% = 150,000 บาท
2. ความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจ
การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นจะประกอบด้วย 2 ปัจจัย
- รายได้
จะแปรผันตามอัตรากำไรขั้นต้น
ถ้ารายได้เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น
ถ้ารายได้ลดลง อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง
แสดงถึงว่าเราสามารถเพิ่มราคาสินค้าได้โดยไม่กระทบจำนวนสินค้าที่ขายได้ แสดงถึงอำนาจการต่อรองกับลุกค้า เราสามารถเพิ่มราคาสินค้าได้โดยลูกค้าไม่สามารถเลี่ยงได้
- ต้นทุนขาย
จะแปรผกผันตามอัตรากำไรขั้นต้น
ถ้าต้นทุนขายลดลง อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น
ถ้าต้นทุนขายเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง
แสดงถึงว่าเราสามารถลดราคาวัตถุดิบแรงงานลงได้แต่สามารถผลิตสินค้าได้จำนวนเท่าเดิม แสดงถึงเราสามารถต่อรองกับคนขายวัตถุดิบให้เราได้ เรากดราคาวัตถุดิบ แต่ผู้ผลิตวัตดิบก็ขายสินค้าให้เราได้เท่าเดิม
โดยรวมแสดงว่าถ้ายิ่งอัตรากำไรขั้นต้นสูงเท่าไหร่ก็แสดงถึงว่าเรามีอำนาจการต่อรองราคากับลูกค้าและผู้ผลิตวัตถุดิบให้เราได้อย่างดีนั่นเอง