มาตรการควบคุมค่ารักษา ยา เวชภัณฑ์ ใกล้คลอดกลางปี 62 นี้
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องสุขภาพและการรักษาพยาบาล และที่น่าภูมิใจประเทศไทยมีความชำนาญการแพทย์ในระดับต้นๆ ถึงกับมีการจัดทัวร์มารักษาที่เมืองไทยเลยทีเดียว สำหรับคนต่างประเทศแล้วค่ารักษาสุขภาพบ้านเราเมื่อเทียบกับต่างประเทศแล้วถือว่าถูก เพราะค่าครองชีพแตกต่างกันมากแต่สำหรับคนไทยแล้วค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนถือว่าแพงมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ บางคนถึงกับต้องหมดเงินเก็บมาหลายสิบปีเลยทีเดียว
กระทรวงพาณิชย์เลยได้ทำการเสนอประเด็กนี้ให้แก่คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบว่า ยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ให้จัดอยู่ในสินค้าควบคุม รามพระราชบัญญัติว่าด้วยสินค้าและบริการ และได้ตั้งอนุกรรมการหารือแนวทางพิจารณาควบคุมราคา แต่ยังไม่ได้กำหนดเพดานค่ารักษาพยาบาลสูงสุด
ล่าสุดมีความคืบหน้า คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เตรียมออกสองมาตรการ
1.ให้มีการแสดงราคายาและเวชภัณฑ์ออกมาให้ประชาชนเห็น
2.ให้แสดงรายการและยาและเวชภัณฑ์ในใบสั่งยา เพื่อที่จะให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อร้านยาข้างนอกได้
กระทรวงพาณิชย์เอกจะมีการอัพโหลดราคา ยา 3,000 รายการ และ เวชภัณฑ์อีก 800 รายการ รวมเป็น 3,800 รายลงบนเว็บไซต์คาดว่าจะเห็นผลในกลางปีนี้ ถ้าโรงพยาบาลไม่ทำตามจะผิดกฎหมาย การขายเกินราคาหรือไม่ปิดป้ายราคาหรือไม่แจ้งราคา โทษจำคุก 7 ปี หรือปรับ 1.4แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากข้อมูลทั้งหมดหากทำได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลเอกชนและประชาชนทั่วไป ถ้ามีการแสดงราคาชัดเจนโอกาสที่ประชาชนกล้าไปใช้บริการรักษาพยาบาลเอกชนมากยิ่งขึ้น โรงพยาบาลรัฐเองก็จะรับภาระน้อยลงอีกด้วย
อ้างอิง:ประชาชาติธุรกิจ – “กกร.” จ่อออก 2 มาตรการควบคุม จี้แจงราคา-ให้สิทธิซื้อยานอก รพ.” วันที่ 21 April 2019 – 10:08 น.