ถัวเฉลี่ยขาขึ้นหรือขาลงดีกว่ากัน?
ถัวเฉลี่ยขาขึ้นหรือขาลงดีกว่ากัน?
ถัวเฉลี่ยคืออะไร?
ถัวเฉลี่ยคือการแบ่งซื้อหุ้นในหลายๆครั้งเพื่อให้ได้หุ้นในหลายระดับราคา
เช่น
ซื้อครั้งที่ 1 10 บาท
ซื้อครั้งที่ 2 9 บาท
ซื้อครั้งที่ 3 8 บาท
จะทำให้ได้ต้นทุนเฉลี่ยออกมาที่ 9 บาท เป็นราคาที่จะไม่สูงหรือต่ำเกินไป
ทำไมต้องถัวเฉลี่ย?
ราคาหุ้นมีการขึ้นลงตลอดเวลาเราไม่สามารถหาจุดต่ำสุดได้ การที่เราเข้าซื้อหุ้นโดยที่ราคาใดราคาหนึ่งจำนวนมาก ถ้าเราโชคดีซื้อในราคาต่ำก็ดีไปแต่ถ้าซื้อราคาสูงแล้ว เราก็จะเสียเปรียบในเรื่องต้นทุนเมื่อเทียบกับนักลงทุนคนอื่น
ถัวเฉลี่ยขาลงคืออะไร
การถัวเฉลี่ยขาลงนั้นก็คือการที่เรา เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเมื่อราคาลดลง เช่น
ตอนนี้เราซื้อหุ้นจำนวน 10 บาท จำนวน 100 หุ้น
ถ้าราคาลงไป 8 บาท เราก็ซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 100 หุ้น
ถ้าราคาลงไปอีกเราก็ซื้อเพิ่มเรื่อยๆ

ข้อดีของการถัวเฉลี่ยขาลง
- ลดความเสี่ยงจากการซื้อหุ้นราคาแพง
- ผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น การซื้อหุ้นที่ถูกลงจะทำให้ได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ทั้งในรูปของส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นและเปอร์เซ็นปันผลที่เพิ่มขึ้น
อย่าคลิกถ้าไม่อยากมีอิสรภาพการเงินด้วยหุ้นปันผล
ข้อเสียของการถัวเฉลี่ยขาลง
- ถ้าถัวเฉลี่ยหุ้นไม่ดียิ่งขาดทุน

การถัวเฉลี่ยขาขึ้นคืออะไร?
การถัวเฉลี่ยขาขึ้นคือการซื้อเพิ่มเมื่อราคาขึ้น
เช่น
ถ้าเราซื้อที่ราคาแรก 10 บาท
ถ้าราคาไป ที่ 11 บาทก็ซื้อเพิ่ม
ถ้าราคาไป ที่ 12 บาทก็ซื้อเพิ่ม
โดยปกติกลยุทธ์ซื้อถัวเฉลี่ยขาขึ้นจะใช้ร่วมกับการCut loss และ trailing Stoploss เพื่อที่จะล็อกกำไรไว้
อ่านบทความ:Trailing stoploss จำกัดขาดทุนไม่จำกัดกำไร
อ่านบทความ:STOP LOSS คืออะไร? ทำไมเราต้องใช้ STOP LOSS?
ข้อดีของการถัวเฉลี่ยขาขึ้น
- ต้นทุนต่ำกว่าตลาด ถ้าได้ซื้อเพิ่มอย่างที่เห็นเราจะซื้อเพิ่มเมื่อราคาขึ้นไปแล้ว ทำให้ทุนเฉลี่ยต่ำลง เช่น ถ้าเราเริ่มซื้อที่ 10 บาท ราคาตลาดมาที่ 11 บาทเราซื้อเพิ่มอีก จะทำให้ทุนเราเท่ากับ(11+10)/2 = 10.5บาท ต่ำกว่าราคาตลาดที่ 11 บาท
ข้อเสียการถัวเฉลี่ยขาขึ้น
- กำไรน้อยกว่าซื้อครั้งเดียว เพราะเราต้องซื้อทุนที่สูงขึ้นทำให้กำไรน้อยกว่า
สิ่งที่สังเกตจากกลยุทธ์ทั้งสอง กลยุทธ์ถัวเฉลี่ยขาลงจะเน้นไปทางนักลงทุน ส่วนถัวเฉลี่ยขาขึ้นจะไปในทางเน้นกำไรมากกว่า การที่เราใช้กลยุทธ์อะไรนั้นเราต้องรู้ว่าตัวเราเป็นแบบไหนเพื่อใช้กลยุธ์ที่ถูกต้อง